วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

อาชีพเสริม..เงินไหลมาตามท่อ

        น้องปลาตู้(สมมติ) มนุษย์เงินเดือนของบริษัทแห่งหนึ่ง มีรายได้ต่อเดือนจากวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง 7,500 บาท น้องปลาตู้ทำงานไปเรียนไปด้วย เพื่อหวังจะได้ปรับเงินเดือนขึ้น และดำเนินชีวิตให้รอดได้ในยุคเศรษฐกิจถดถอย ...
        ระหว่าง ยังไม่จบปริญญาตรี น้องปลาตู้ไม่เคยได้รับการปรับเงินเดือนหรือโบนัส เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในที่ทำงานเดียวกัน บริษัทอ้างว่ากำไรน้อยให้ช่วยกัน พอจบปริญญาตรี  น้องปลาตู้หวังจะได้รับการปรับเงินเดือนเทียบเท่าพนักงานระดับปริญญาตรีคนอื่นๆ อย่างน้อยก็น่าจะได้ขึ้นเงินเดือนระหว่าง 1,000-2,000 บาท แต่ปรากฏว่า บริษัทปรับเงินเดือนให้น้องปลาตู้เพียง 500 บาท
        น้องปลาตู้รู้สึกผิดหวัง เสียใจ ที่สำคัญคือ ทั้งครอบครัวก็คงต้องอดอยากกันต่อไป เงินเดือนขึ้น 500 บาท แทบจะสลายไปกับสายลม ไหนจะค่ามอเตอร์ไซค์ออกจากซอยบ้าน ค่ารถประจำทาง  นี่ยังไม่รวมค่าเช่าบ้าน ค่าข้าวปลาอาหารการกินที่แพงขึ้นทุกวัน และค่าอื่นๆ อีกมากมาย

ทางเลือก-ทางรอดของน้องปลาตู้ มีอะไรบ้าง?

หารายได้เสริม รายได้ที่2 ระบบสำรองของชีวิต

แทนที่จะตัดสินปัญหาด้วยอารมณ์ อย่างการ “ลาออก” หรือ “อู้งาน” เพื่อแสดงการต่อต้านบริษัทที่ไม่ยอมขึ้นเงินเดือนและค่าครองชีพให้อย่าง เหมาะสม  น้องปลาตู้อาจจะเลือก “รักษา” สภาพการเป็นลูกจ้างในบริษัทเดิมเอาไว้ อย่างน้อยก็ยังได้เงินเดือนทุกเดือน และมีสวัสดิการสังคม แต่อาจจะลองมองหาอาชีพที่ 2 เป็นระบบสำรองของชีวิต เพื่อที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน

อาชีพเสริมอย่าให้เป็นแค่ความคิด เพราะจะเป็น “ตัวช่วย” ที่เห็นผลจริงสำหรับหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย และต้องการจะอยู่รอดให้ได้ในยุคที่สินค้าราคาแพง

คนอเมริกันกว่า 7 ล้านคน ล้วนมีอาชีพที่ 2 เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นสิ่งที่ทำได้จริง ลองดูว่าคุณมีศักยภาพจะทำอาชีพเสริมที่น่าสนใจเหล่านี้หรือไม่?

ติวเตอร์/สอนหนังสือ        รับเลี้ยงเด็ก      ออกแบบจัดสวน และอื่นๆ      ขายเสื้อผ้า       ช่าง
นักร้อง/นักดนตรี            พนักงานเสิร์ฟ        ส่งพิซซา       รับเลี้ยงสัตว์
หรือสร้างธุรกิจให้เงินไหลมาตามท่อ
ร่วมงานกันนะโทร....
088-883-686-1
087-460-468-1
089-846-795-5





B=เงินไหลมาตามท่อ
หรือการทำอาชีพเครือข่าย

ร่วมงานกันนะโทร....
088-883-686-1
087-460-468-1
089-846-795-5

ยาล้างสารพิษดีท็อก S Max



ยาล้างสารพิษดีท็อก ลำไส้ ตับตราวายเอ็มS - Max

ทะเบียนยาเลขที่ G649/55
เป็นยาแผนโบราญ ยาสามัญประจำบ้าน
1กล่องมี4แผง แผงละ15แคปซูล รวม60แคปซูล
ราคาขาย 1,550 บาท


สามารถเป็นสมาชิกได้ฟรี และมีสิทธิในการสั่งซื้อสินค้าราคาส่งได้ในครั้งต่อไป 

พร้อมของแถม
โทรหาเราได้ราคาถูกพิเศษ โทร. 098 249 6546

ยาสลายไขมัน ล้างสารพิษในลำไส้ และดีท๊อกตับ ตรา S-Max 
ทะเบียนยาเลขที่ G649/55
คืนรูปร่างอันสมส่วน...ให้คุณ
สนใจสอบถามสั่งสินค้าโทร. 098-249-6546

ระบบการทำงานในการลดไขมันส่วนเกินของผลิตภัณฑ์สลายไขมัน คือ ลดการดูดซึมของไขมัน และลดการสร้างไขมันใหม่ ขับไขมันส่วนเกิน ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันเก่าให้ เป็นพลังงาน คือ ไขมันบริเวณหน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขาจะลดลง เสริมสร้างเป็นกล้ามเนื้อทดแทน ช่วยฟื้นฟูร่างกาย ด้วยสมุนไพรของไทย และจีนส่วนผสมที่สำคัญในสมุนไพร S-MAX คือพริกไทยดำเปลือกของพริกไทยมีน้ำย่อยสำหรับย่อยไขมัน จึงช่วยเรื่องลดความอ้วนได้ และช่วยลดระดับไขมันในเลือดพริกไทยช่วยกระตุ้นปุ่มรับรสที่ลิ้น เพื่อให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยได้มากขึ้น, ช่วยขับลมขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อดอกคำฝอยลดไขมันในเลือด บำรุงหัวใจ ขับเหงื่อ ระงับประสาท ในดอกคำฝอยมีสารที่สำคัญหลายชนิดที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย โดยเฉพาะสาร Flavonoid (ฟลาโวนอยด์) และกรดไขมันมะขามแขกช่วยระบายท้อง ถ่ายพิษอุจจาระเป็นมูกถ่ายน้ำเหลือง ขับลมในลำไส้ แก้ริดสีดวงทวารฉั่งฉิกดูแลผิวพรรณ ลดน้ำตาล เร่งการเผาผลาญไขมันส้มแขกในผลส้มแขกมี HCA ทำหน้าที่เปลี่ยนกระบวนการเผาผลาญแป้งให้เป็นน้ำตาล และเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะแป้ง, ไขมัน, น้ำตาล ให้หมดจดมะขามป้อมช่วยเผาผลาญ ขับปัสสาวะ และมีวิตามิน C สูง ช่วยให้ไม่เกิดอาการอ่อนเพลีย

วิธีรับประทาน :ทานครั้งละ 1-2 แคปซูล (ก่อนนอน)
 


ยาบำรุงตราวาย เอ็ม M MAX


ยาตราวายเอ็ม M-Max กระชายดำ

ทะเบียนยาเลขที่ G648/55
1 กล่องมี 4 แผง แผงละ 15 แคปซูล
ราคาขายปลีก 1,550 บาท
ขนาดทดลอง 650 บาท


สามารถเป็นสมาชิกได้ฟรี และมีสิทธิสั่งซื้อสินค้าราคาส่ง
ในครั้งต่อไปพร้อมของแถม

สนใจสอบถามสั่งสินค้าโทร.098-249-6546

โทรหาเราได้ราคาพิเศษ

กระชายดำ สมุนไพรไทยขั้นเทพM-Max
อีกหนึ่งบทความดีๆที่เรานำเสนอให้ท่านได้รู้จักกับสุดยอดสมุนไพรไทยที่มีชื่อว่า"กระชายดำ"ที่อยู่คู่กับเรามาตั้งแต่ครั้งอดีต
หมอพื้นบ้านมีการนำว่านกระชายดำมาใช้เป็นส่วนผสมของตำรับยาสมุนไพรมานานแล้ว  โดยเฉพาะยารักษาโรคต่าง ๆ และยาชูกำลังหรือยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศ กระชายดำก็เช่นกันแม้จะมีการใช้ทำยามานานแต่ถูกปิดบังโดยเงื่อนไขทางพิธีกรรมที่สืบทอดกันมา จึงทำให้สมุนไพรชนิดนี้ในอดีตไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก แต่ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ มีการศึกษาถึงสรรพคุณที่แท้จริงกันอย่างจริงจัง ดังต่อไปนี้
ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ต้านอักเสบ : สาร 5,7 ไดเมธอกซีฟลาโวน (5,7-DMF) ที่แยกได้จากเหง้ากระชายดำ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเทียบได้กับยามาตรฐานหลายชนิด คือ แอสไพริน , อินโดเมธาซิน, ไฮโดรคอร์ติโซน และเพรดนิโซโลน จากการศึกษาฤทธิ์ต้านอักเสบของสารนี้ในสัตว์ทดลองด้วยวิธีการต่าง ๆ พบว่าสาร 5,7-DMF สามารถต้านการอักเสบแบบเฉียบพลันได้ดีกว่าแบบเรื้อรัง โดยแสดงฤทธิ์ยับยั้งการบวมของอุ้งเท้าหนูขาวจากสารคาราจีนแนนและเคโอลินได้ดีกว่าฤทธิ์ยับยั้งการสร้าง granuloma จากการฝังสำลีใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ พบว่า สาร 5,7-DMF มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเกิด exudation และการสร้างสาร prostaglandin อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบในช่องปอดของหนูขาว (rat pleurisy)
ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ : สาร 5,7,4’-trimethoxyflavone และ 5,7,3’,4’ –tetramethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ที่เป็นสาเหตุของโรคมาลาเรีย ส่วนสาร 3,5,7,4’-tetramethoxyflavone และ 5,7,4’-trimethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Candida albicans และแสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Mycobacterium อย่างอ่อน
พิษต่อเซลล์มะเร็ง : จากการทดสอบผลของฟลาโวนอยด์ 9 ชนิดของกระชายดำต่อเซลล์มะเร็ง เช่น KB , BC หรือ NCI-H187 ไม่พบว่ามีสารใดทำให้เกิดพิษต่อเซลล์มะเร็งที่ทดสอบ
ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดง : มีรายงานการวิจัยว่า สารสกัดด้วยเอธานอลของกระชายดำมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดงใหญ่ (aorta)ละลดการหดเกร็งของลำไส้เล็กส่วนปลาย (ileum) ของหนูขาว และยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
เป็นยังไงกันมั่งคะกับเจ้ายอดสมุนไพรไทยกระชายดำ สรรพคุณมากมายแถมเป็นที่ยอมรับกันในเชิงการแพทย์ ร้านปู่เซินดอทคอมหวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน

หลินจือดำสกัด G Max

หลินจือดำสกัด 100%  G Max
เลขที่ อย. 13-2-02053-1-0013
บรรจุ 1 กระปุก บรรจุ 30 แคปซูล
ราคาขาย 1,650 บาท 

เป็นสมาชิกฟรี เพื่อรับสิทธิในการสั่งซื้อครั้งต่อไปในราคาส่ง พร้อมของแถม
สนใจสอบถามสั่งสินค้าโทร.098-249-6546

เห็ดหลินจือดำสกัด 100% ตราวายเอ็ม 

หลินจือ...ราชาแห่งสมุนไพร
อมตะแห่งชีวิต กำจัดพิษ พิชิตความแก่
เราใช้เห็ดหลินจือดำ 50 กิโลกรัมมาสกัดเพื่อให้ได้ตัวยา 1 กิโกกรัม

ปฏิกิริยาของหลินจือดำสกัด  ใน G-MAX

ก. วินิจฉัยโรคได้ (Scanning)

1. โรคเกิดจากการทำงานของร่างกายไม่สมดุลหรือเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย
2. สารสกัดหลินจือดำจะเข้าทำปฏิกิริยากับโรคที่ฝังลึกภายในร่างกาย และปรับให้สมดุลตลอดจนทำให้กลไกดังกล่าวทำงานเป็นปกติเหมือนเดิม คือการปรับภูมิในร่างกายนั่นเอง
3. ลักษณะหรืออาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการ ปรับให้เกิดความสมดุลในร่างกายเรียกว่าผลทางอ้อมหรือปฏิกิริยาโต้ตอบที่มีต่อโรค บางคนเรียกการกระทุ้งโรค
4. ปฏิกิริยาดังกล่าวจะทำให้เรารู้ได้ทันทีถึงโรคที่เรากำลังเป็นอยู่ 
5. สารสกัดหลินจือดำมีศักยภาพในการบำบัดโรคได้อย่างกว้างขวาง 

ข. ตัวสร้างความสะอาด

1. มีผลชงัดในการกำจัดสารพิษที่ละลายอยู่ในน้ำ เช่น กรดยูริค ในร่างกายเกินกว่าปกติ เกลือแร่ที่สะสมและสารพิษที่ละลายอยู่ในอินทรีย์ เช่น คลอเรสเตอรอลที่มากเกินไป การสะสมของไขมัน ความบกพร่องของเนื้อเยื่อ (Tissue) สารเคมีที่เป็นไขมันตกค้าง เลือดสกปรกและอื่นๆ เป็นต้น
2. สารที่เป็นองค์ประกอบในหลินจือดำสามารถละลายน้ำ และสารละลายอินทรีย์ได้นั้นจะมีผลอย่างมากในการกำจัดพิษที่ผสมอยู่ในเลือดและในร่างกาย
3. สารพิษที่ละลายน้ำมักจะถูกขับออกจากร่างกาย ผ่านเหงื่อและน้ำปัสสาวะ
4. สารพิษที่อยู่ในอินทรีย์มักจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการถ่ายอุจจาระ ผื่นคันของเสียที่ร่างกายขับออกมา บางครั้งเป็นเสมหะ และขี้ตา
5. ในขณะที่กำลังขจัดพิษอยู่นั้น ร่างกายจะรู้สึกร้อนตลอดเวลา ทั้งนี้เนื่องจากเลือดเป็นกรดบ้างเล็กน้อย เพราะพิษฝังตัวอยู่ในเม็ดเลือดแล้วก่อนที่ขั้นตอนของการขับพิษจะเกิดขึ้นและจะถูกขับออกมาโดยผ่านไตและตับ
6. ภายในลำคอจะรู้สึกกระหายน้ำ  แสดงให้เห็นว่าร่างกายต้องการน้ำมากเพื่อขับสารพิษ
7. หลินจือดำจะไม่ทำให้ร่างกายร้อนผ่าวถ้าหากปราศจาก สารพิษและกรด

ค. ตัวสร้างความสมดุล

1. กระบวนการฟื้นฟูหน้าที่ต่างๆของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ
2. จะเกิดปฏิกิริยาหลายอย่างในช่วงของการสร้างความสมดุล แสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังปรับสภาพ ไม่ใช่ผลข้างเคียง ผู้ป่วยมีปฏิกิริยาบางอย่างเกิดขึ้นอย่าได้เป็นกังวลกับเรื่องนี้

ง. ปรับสภาพร่างกายให้สู่สภาวะปกติ
1. กระบวนการฟื้นฟูสภาพหรือเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอขึ้นมาใหม่ตรงส่วนของร่างกายที่ประสบกับบาดแผลหรือทรุดโทรม
2. เสริมสร้างระบบภูมิต้านทานโรคให้สูงขึ้น สร้างความแข็งแกร่งทางด้านกายภาพความคิดปลอดโปร่งและสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


จ. ชะลอความแก่

1. เป็นเป้าหมายสูงสุดในการรับประทาน G-MAX
2. กระบวนการระบบต่างๆ ของร่างกายได้ทำหน้าที่ในระดับสุดยอดซึ่งจะทำให้ใบหน้า ดูสดชื่นมีพลัง

รับประทานวันละ 1-2 เม็ด ก่อนนอน หรือก่อนอาหารเช้า


L Max ยาสตรีตราYM

ยาสตรี ตรา วายเอ็ม      ทะเบียนยาเลขที่ G646/55 

ยาแผนโบราณ ยาสามัญประจำบ้าน
อกตึง   ฟิตกระชับ ขจัดกลิ่น ระดูขาว มดลูกกลับเข้าอุ่   คืนความเป็นหญิงให้คุณ
สนใจสอบถามสั่งสินค้าโทร. 098-249-6546


1 กล่อง มี4แผง แผงละ15แคปซูล
ราคาขายปลีก: 1,550บาท

พิเศษ มีขนาดทดลอง ราคา 650 บาท  โทรหาเราได้ราคาถูกพิเศษ


วิธีรับประทานก่อน หรือหลังอาหาร กลางวัน และอาหารเย็น ครั้งละ 1 แคปซูล


เพื่อความสวยงาม ทั้งภายนอกและภายในของคุณสุภาพสตรี ด้วยคุณสมบัติทางเภสัชของยาสตรี ตรา วาย เอ็มซึ่งมีสมุนไพรหลากหลายชนิด ที่จะช่วยคืนความเป็นหญิงอย่างสมบูรณ์แบบฟิตกระชับ ช่วยขจัดกลิ่น ระดูขาว ปรับสภาพมดลูกให้กลับเข้าอู่ ผิวพรรณเปล่งปลั่งแลดูมีน้ำมีนวล...ดูแลหน้าอกให้ตึงกรกะชับ


สรรพคุณของยาสตรี ตรา วาย เอ็ม 

- แก้ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ, แก้ระดูขาว, เชื้อรา

- กลิ่นอับ และกลิ่นไม่สะอาดของช่องคลอดจะหมดไป

- กลิ่นตัว กลิ่นรักแร้ จะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์

- เมื่อรับประทานต่อเนื่องได้สัก 15-30 วัน ช่องคลอดจะกระชับขึ้น

- สิ่งสกปรกภายในร่างกายจะถูกขับออกมาในระหว่างมีรอบเดือน

- อาการปวดท้องน้อย หรือปวดท้องตอนมีรอบเดือนจะทุเลาลง

- เมื่อทานต่อเนื่อง 30-60 วัน ผิวพรรณที่ดูสดใส ผุดผ่องขึ้น

    ต่อต้านความชรา ช่วยลดสิว-ฝ้า และรอยเหี่ยวย่นให้น้อยลง

- ช่วยปรับสภาวะฮอร์โมนให้เป็นไปอย่างปกติ

- ช่วยทำให้มดลูกสมบูรณ์สามารถมีบุตรง่าย และยังสามารถที่จะ
ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ด้วย

ว่านชักมดลูก” มารู้จักว่านชักมดลูกกันเถอะ

ว่านชักมดลูกมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า  Curcuma  Zanthorrhiza Roxb. เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE ซึ่งเป็นพืชตระกูลขิง  โดยมีชื่อพื้นเมือง ที่เราเรียกกันจนคุ้นเคยติดปากว่า  “ว่านทรหดสำหรับชื่ออื่นๆ ที่ใช้เรียกกันตามท้องที่ต่าง ๆ ได้แก่ ว่านพระยาหัวศึก” “ว่านการบูรเลือด” ว่านชักมดลูก  เป็นไม้ล้มลุกจำพวกเหง้าใต้ดิน  อยู่ในวงศ์ขิง  ข่า  สูงได้ถึง  2 เมตร  ใบมีลักษณะเป็นพืช  ใบเดี่ยวเหมือนขมิ้น  แต่มีความใหญ่โตผิดกว่ากันหลายเท่าเรียงกันเป็นกระจุก  อยู่ใกล้ราก  รูปขอบใบขนานแกมวงรี  กว้าง 15-21  เซนติเมตร  ยาว 40-90 เซนติเมตร  โดยร่องกลางใบมีลักษณะเป็นทาง  สีดำแดง หรือสีน้ำตาลหม่นปนแดง  กว้างได้ถึง  10 เซนติเมตร  กาบใบยาวได้ถึง 75 เซนติเมตร  เหง้าหรือหัว มีลักษณะกลมใหญ่และเกลี้ยงเหมือนดั่งหัวเผือกอาจยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร  ผิวด้านนอกมีสีส้มอ่อน  เนื้อในหัวมีสีขาวเหลือง, สีส้ม, หรือส้มแดง ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูก  โดยหัวว่านชักมดลูกนั้นมีกลิ่นฉุนร้อน และรสต่างกันเป็น 5 รส  ดอก  มีลักษณะเป็นช่อเชิงลดรูปทรงกระบอก  กว้าง 8-10 เซนติเมตร  ยาว 16-20 เซนติเมตร ก้านดอกยาว15-20 เซนติเมตร ใบประดับที่ได้ได้รองรับดอกย่อยสีม่วง ยาวได้ถึง 9 เซนติเมตร  ใบประดับที่รองรับดอกย่อยสีเขียวอ่อน  ยาว 5-6 เซนติเมตร  ใบประดับย่อยยาวได้ถึง 2.5  เซนติเมตร  กลีบดอกสีชมพู เกสรตัวผู้ที่เป็นหมันสีขาว กลีบปาก สีเหลืองแถบกลางสีเหลืองเข้มนอกจากนี้แล้ว ว่านชักมดลูกยังเป็นไม้ที่เจริญงอกงาม ได้ดีในฤดูฝน  แต่เมื่อเข้าหน้าหนาวต้นจะโทรมและทิ้งใบเกลี้ยง  เหลือแต่หัวที่ฝังอยู่ในดิน ซึ่งต้องรีบขุดมาใช้ มิฉะนั้นสรรพคุณ  ทางยาจะเสื่อมคุณภาพลง

ว่านชักมดลูกมีกี่ประเภท?

ว่านชักมดลูกที่เรารู้จักกันมีอยู่ 2 ประเภท ซึ่งอาจแบ่งได้ตามสายพันธุ์ ดังนี้ คือว่านชักมดลูก (ตัวผู้) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า  Curcuma Zanthorrhiza Roxb. ว่านชักมดลูก (ตัวเมีย)  มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า  Curcuma Comosa Roxb.ว่านชักมดลูกทั้ง 2 สายพันธุ์นี้จะมีลักษณะ ภายนอกที่คล้ายคลึงกัน  แต่ส่วนใหญ่มักนิยมว่านชักมดลูกตัวผู้มาเข้าในตำรับยามากกว่าตัวเมีย  เพราะสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ซึ่งมีสรรพคุณในทางยามีมากกว่านั้นเอง

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา

จากผลการวิจัยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ทางยาของว่านชักมดลูกจากสถาบันต่าง ๆ ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องพบว่า  ใน ว่านชักมดลูกมีสารออกฤทธิ์ที่สามารถลดการอักเสบ ยับยั้งเนื้องอก  ยับยั้งการสังเคราะห์กรดไขมันลดปริมาณ ไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอลในเลือดที่มีปริมาณสูง  ยับยั้งเบาหวานและการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ ลดการซึมผ่านของหลอดเลือด แก้ปวด รักษาแผล ปรับ อุณหภูมิในร่างกายให้สมดุล ลดพฤติกรรมธรรมชาติของสัตว์ทดลอง  เพิ่มฤทธิ์บาร์บิตูเรต ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์เป็นพิษต่อเซลล์ ยับยั้งการเป็นพิษต่อตับ กระตุ้นการผลิต น้ำดี ลดเวลาการหลับของบาร์บิตูเรต ยับยั้งเอนไซม์ GPT, GOT, alkaline phosphatase, adenine nucleotide translocass (HIV)  ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านไวรัส ต้านเชื้อรา กระตุ้นการเพิ่มจำนวนเซลล์น้ำเหลือง เพิ่มน้ำหนักมดลูกและปริมาณไกลโคเจน มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนฆ่าแมลง และ ลดการสร้างเม็ดสีผิวได้  ซึ่งสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในทางยาที่มีอยู่ใน ว่านชักมดลูกจริง ๆ  แล้วมีมากมายหลายกลุ่มหนึ่งในนั้นก็คือ  เคอร์คิวมิน  เป็นสารที่สกัดได้จากขมิ้น ซึ่งให้ประโยชน์หลายประการ แต่ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของกระเพาะอาหาร
ผลสรุปทางการวิจัย ยังพบอีกว่า ว่านชักมดลูกมีผลคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ ฮอร์โมนที่มีในเพศหญิง  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเข้าใจก่อนว่าตัวของว่านชักมดลูกเอง ไม่ใช่ฮอร์โมน แต่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเท่านั้น  นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์เพิ่มการขับน้ำดีและสามารถป้องกันมะเร็งในสัตว์ทดลองได้
สรรพคุณว่านชักมดลูกของไทย ตามบันทึกในตำรับยาแผนโบราณได้กล่าวไว้ว่า  “ว่านชักมดลูก”  มีคุณประโยชน์และให้ความปลอดภัยในการใช้สำหรับผู้หญิงมากกว่ากวาวเครือ  เพราะว่านชักมดลูกมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ เสริมหน้าอก  ทำให้ผิวพรรณขาวนวล ลบรอยเหี่ยวย่นได้  แต่ ว่านชักมดลูกมีคุณสมบัติที่พิเศษกว่า กราวเครือคือ ช่วยรักษามดลูกที่ทรุดตัว  หรือเรียกว่ามดลูกต่ำให้เข้าที่  นอกจากนี้ยังช่วยกระชับช่องคลอด กระชับหน้าท้องที่หย่อนยานอันเกิดจากการคลอดบุตร  ทำให้หน้าท้องตึงเรียบเหมือนสาว ๆ  และยังช่วยให้ผู้หญิงที่อารมณ์ทางเพศหายไป กลับมามีเหมือนเดิม ว่านชักมดลูกยังช่วยให้ผู้หญิงที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว จิตใจห่อเหี่ยว อ่อนไหวง่าย โกรธง่ายหายไป  ทำให้คึกคักเข้มแข็งขึ้น  อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งปากช่องคลอด หรือภายในมดลูก ช่วยรักษาซีสต์ และเนื้องอกภายในช่องคลอดให้ฝ่อตัว หรือเล็กลงด้วย  นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือนอย่างได้ผลชะงัก  เพราะฉะนั้นหากจะเทียบกันแล้ว ว่านชักมดลูกจึงมีประโยชน์เหนือกว่ากราวเครือมาก
แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า การใช้ว่านชักมดลูกเพียงอย่างเดียวจะให้สรรพคุณได้ไม่มากเท่าที่ควร  ตามตำรายาโบราณได้ระบุถึงการนำสมุนไพรมาใช้งานว่า ต้องปรุงขึ้นตามสูตรยานั้น ๆ และจำเป็นต้องอาศัยสมุนไพรอีกหลายชนิดผสมเข้าไป จึงจะช่วยให้ออกฤทธิ์และได้ผลสูงสุด  ซึ่งสรรพคุณของว่านชักมดลูกที่มีบันทึกตามตำรับยาแผนโบราณเมื่อหลายร้อยปีก่อน ได้ระบุถึงผลการนำมาบำบัดอาการต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นกับร่างกายไว้ว่า
-   ช่วยกระชับช่องคลอดภายในสตรี
-   ทำให้มีอารมณ์ทางเพศสมบูรณ์
-   ดับกลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นภายในช่องคลอดให้ลดลงหรือหายไป
-   ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าขาวนวล และมีเลือดฝาด
-   ทำให้มดลูกต่ำและ อาการตกขาวดีขึ้น
-   ช่วยรักษาอาการหน่วงเสียวมดลูก หรือเจ็บท้องน้อยเป็นประจำได้ดี
-   ช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง
-   มีผลในการลดหน้าท้องที่หย่อนยาน ซึ่งเกิดจากการคลอดบุตร ทำให้หน้าท้องหดตัว  และเล็กลง
เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง  กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
วิธีการใช้  “ว่านชักมดลูกตามตำรายาโบราณได้มีบันทึกไว้ตามตำรายาแผนโบราณของไทย ซึ่งเท่าที่ค้นพบจะมีวิธีการใช้ดังนี้
ให้นำหัวว่านชักมดลูกมาฝนกับเหล้าดื่มแก้ปวดมดลูกหรือใช้ปรุงเป็นยาต้ม แก้มดลูกพิการปวดบวม  ทำให้มดลูกรัดตัวเล็กลง เรียกว่า มดลูกเข้าอู่”  สำหรับสตรีที่คลอดบุตรใหม่ ๆ นำหัวว่านสดมารับประทานแก้โรคลำไส้  หรือใช้หัวว่านชักมดลูกตำเป็นผงกินกับน้ำร้อน แก้ริดสีดวงทวารชนิดกลีบมะไฟและเดือยไก่
การใช้ว่านชักมดลูก เพื่อรักษาอาการมดลูกพิการปวดบวมที่บริเวณมดลูก หรือเป็นมุตกิตระดูขาว  มีวิธีการใช้ดังนี้ คือ ให้นำหัวว่านชักมดลูกไปฝานเป็นชิ้น ๆ  จากนั้นนำไปปิ้งหรือย่างไฟให้แห้ง  แล้วนำมาดองกับเหล้าสกัดสักสองสามวัน  ดื่มวันละสองเวลาก่อนอาหาร จะช่วยบำบัดอาการทั้งหลายเหล่านั้น ให้สิ้นไป หรือหากแท้งลูกใหม่ ๆ ก็ให้รับประทานว่านชักมดลูกนี้กับเหล้าหรือน้ำปูนใส อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ จะหายไปได้
สำหรับท่านชาย หากเป็นกษัย ปัสสาวะขุ่นข้อง  เบาแดง  เบาเหลือง  หรือขุ่นข้น  เบาหวาน  จะแก้ให้หายได้  โดยดื่มน้ำดองหัวว่านเป็นระยะเวลาสม่ำเสมอ  ก็จะปราศจากอาการ ดังกล่าวได้
หากนำหัวว่านมาโขลกกับเหล้าขาว 40 ดีกรี  กรองเอาแต่น้ำดื่ม จะช่วยรักษาผู้ชายที่เป็นไส้เลื่อน  กระบังลมเคลื่อนได้  นอกจากนี้ยังใช้หัวว่านสดมารับประทานแก้โรคริดสีดวงทวารได้ โดยตำให้แหลกผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน หรือจะดื่มกับน้ำร้อนก็ได้ผลเช่นเดียวกัน  ข้อควรระวังคือ  ขณะที่รับประทานว่านชักมดลูกนี้  ห้ามรับประทานของคาวจัดหรือมันเลี่ยนจนเกินไป เพราะจะทำให้ตัวยาอ่อนฤทธิ์ลงได้
การใช้  “ว่านชักมดลูก”  สำหรับสตรี แบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ
ระยะแรกซึ่งเป็นระยะที่เริ่มมีประจำเดือน จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตตามลักษณะของผู้หญิงที่ควรจะเป็น เช่น ไม่มีอาการปวดประจำเดือน  ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณผ่องใส หน้าอกเต่งตึงตามวัย ช่วยรักษาอาการตกขาวที่ผิดปกติ และทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น
ระยะที่สอง วัยแต่งงานหรือมีบุตรแล้ว จะช่วยทำให้อารมณ์ทางเพศสมบูรณ์ขึ้น ช่องคลอดกระชับ หน้าอกเต่งตึงอยู่เสมอ หน้าท้องไม่ลายหลังจากการคลอดบุตร นอกจากนี้ยังช่วยทำให้อารมณ์จิตใจแจ่มใสสดชื่น  ช่วยดับกลิ่นไม่พึงปรารถนา และลบรอยเหี่ยวย่นตามร่างกายทั่วไปได้ดี
ระยะที่สาม หรือระยะเริ่มเข้าสู่วัยทอง คือหลังจากอายุ 45 ปีขึ้นไป  ว่านชักมดลูกจะช่วยไม่ให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด มึนหัว หน้ามืด อ่อนเพลีย  เหนื่อยง่าย  อาการร้อนวูบวาบ ปวดเนื้อ ปวดหัว อารมณ์ฉุนเฉียว โมโหง่าย  จิตใจห่อเหี่ยวซึมเศร้า ท้อแท้ ความจำเสื่อม นอนหลับยาก เวลาร่วมเพศไม่มีอารมณ์ น้ำหล่อลื่นไม่มี อาการเหล่านี้ตามตำรายาโบราณได้มีบันทึกไว้ว่า  “ว่านชักมดลูก”  สามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ นี้ได้
ว่านชักมดลูก”  สำหรับสาวประเภทสอง  จากบันทึกตามตำรายาแผนโบราณกล่าวไว้ว่า  “สมุนไพรว่านชักมดลูก”  สามารถใช้ได้กับคนทุกประเภท  ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายหรือแม้แต่คนที่มีความผิดปกติทางเพศ  เช่น กลุ่มคนที่เรียกว่า  ทอม หรือ กระเทย  ก็สามารถใช้ว่านชักมดลูกมาเสริมสร้างร่างกายให้สดใสแข็งแรงได้เช่นกัน โดยคุณประโยชน์ที่จะได้รับก็คือ
ทำให้ร่างกายแข็งแรง  นวล สดใส  เปล่งปลั่ง  มีน้ำมีนวล
กลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นอับในที่ต่างๆ จะหายไปโดยไม่ต้องใช้น้ำหอมต่างๆ มาช่วย
อารมณ์ทางเพศที่ไม่สมบูรณ์  จะกลับมาสมบูรณ์เช่นเดิม
อารมณ์ฉุนเฉียว  หรืออ่อนไหวง่าย  จะเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดี  เข้มแข็งขึ้น
- สิว  ฝ้า  บนใบหน้าหรือร่างกาย  จะจางลงและค่อย หมดไป